ความนึกคิดที่ดีพึ่งจะเกิดขึ้น พวกเราเพียงจำเป็นต้องตระหนักถึง ความนึกคิดทั้งผองอยู่รอบกายพวกเรา พวกเขาก็โผล่ออกมาจากที่แหน่งใดเลย ทุกคนมีความสามารถสำหรับการประดิษฐ์ มันมิได้เชื่อมต่อกับสติปัญญาโดยธรรมชาติที่พวกเราทุกคนมีหรือเป็นความสามารถ มันอยู่ในแบบที่พวกเราอาศัยปฏิบัติงานแล้วก็สนุกสนานกับ
ความริเริ่มคิดสร้างสรรค์เป็นยังไง? หลังจากนั้น …
ความคิดริเริ่มเป็นความประพฤติแบบสุ่มของการรับทราบซึ่งจะปรากฏออกมาจากที่ใดเลยแล้วก็ชอบเป็นแล้วก็ชอบกลายเป็นสิ่งที่ดิบหรือไร้สาระเป็นสิ่งที่งามจริงและก็มีค่ามากมาย
ความสร้างสรรค์แพร่หลายมากมาย บล็อก “ความคิดริเริ่มในสถานที่สำหรับทำงาน” บอกว่า “ความริเริ่มคิดสร้างสรรค์“เป็นความประพฤติให้แนวความคิดใหม่และก็ความคิดริเริ่มแปลงเป็นความเป็นจริง วิกิพีเดียเกี่ยวกับความสร้างสรรค์พูดว่าความคิดริเริ่มสร้างสรรค์เป็นการปรากฏที่เกิดจากของใหม่ๆหรือที่มีคุณค่าบางสิ่ง รายการที่ทำขึ้นมักไม่มีตัวตน
Brian Clegg รวมทั้ง Paul Birch เขียนเอาไว้ภายในหนังสือ “Instant creativity” ซึ่งความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ลวง มี“ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ทางศิลป์” ที่เกี่ยวเนื่องกับการเขียนหนังสือหรือการสร้างชิ้นดนตรีแล้วก็มี “ความริเริ่มคิดสร้างสรรค์สำหรับการศึกษาและทำการค้นพบ” ตรงนี้พวกเราศึกษาค้นพบหรือสร้างสรรค์สินค้าใหม่ๆแล้วก็สิ่งต่างๆแล้วท้ายที่สุดก็มี “ความริเริ่มคิดสร้างสรรค์ของอารมณ์ขัน” ซึ่ง เกี่ยวพันกับการเห็นโลกที่ต่างกัน จากมุมมองของความท้าของหน่วยงานธุรกิจหรือการทำงานความคิดริเริ่มสร้างสรรค์หรือการจัดการปัญหาด้วยความริเริ่มคิดสร้างสรรค์มักเกี่ยวพันกับความสร้างสรรค์อีกทั้งสามด้าน
อะไรเป็นความท้าในทางปฏิบัติสำหรับในการมีความคิดประดิษฐ์?
จากบริบทของหน่วยงานหรือธุรกิจความคิดริเริ่มสร้างสรรค์มิได้เป็นสิ่งที่ดีที่จะมีคุณสมบัติอีกต่อไป ในความจริงถ้าหากว่าไม่มี บริษัท น้อยมากจะรอดชีวิตได้ในวันนี้ เมื่อจัดการกับปัญหาความท้าสำหรับการปฏิบัติงานของพวกเราโดยไม่คิดประดิษฐ์พวกเราจะมองหาปัญหาเดียวกันในทุกๆวันโดยไม่ต้องมองจากเค้าโครงความคิดที่ไม่เหมือนกัน ปัญหาเก่าจะยังคงอยู่
พวกเราบางทีอาจสารภาพสิ่งที่จำเป็นสำหรับในการประดิษฐ์แล้วก็รับรู้โดยการเลือกสรรพนักงานที่ประดิษฐ์จากตลาดที่จะตอบสนองความจำเป็นของพวกเรา เป็นแนวทางที่ดี แม้กระนั้นพวกเราหายไปสำหรับเพื่อการแก้ไขปัญหาความท้าสำหรับในการปฏิบัติงานของพวกเราผ่านความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ของพวกเราเอง พวกเราอาจจะไม่รู้ความนึกคิดของพวกเราบางทีอาจเยี่ยมที่สุดและก็พวกเราเป็นผู้ที่ทราบปัญหาที่ดีมากกว่าความรู้ความเข้าใจด้านนอกที่ได้รับค่าแรงงาน
ทุกคนมีความสามารถสำหรับการประดิษฐ์และก็เป็นแค่เพียงสิ่งที่พวกเราไม่เคยรู้และไม่ใช้มัน บางบุคคลได้หยุดไว้อาจมีหลายเหตุผล เหตุผลที่มิได้ใช้สมองประดิษฐ์ของพวกเราบางทีอาจเป็นไปได้หลายประเภท
บางทีอาจเป็นไปได้ว่าพวกเรามิได้อยู่ในอารมณ์ที่ถูกหรือเป็นจังหวะที่ผิดจำเป็นต้องและก็บางทีอาจเป็นไปในทางที่พวกเราได้รับการเล่าเรียน พวกเราทราบไหมย้ำหลักในการค้นคว้าในตอนนี้เน้นไปที่การหาคำตอบที่ถูกหรือคำตอบที่จำเป็นจะต้องแทนที่จะมาพร้อมกับโซลูชันที่ประดิษฐ์
เราผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยจำเป็นจะต้องผ่านระบบการศึกษาเรียนรู้ที่เน้นย้ำหัวข้อการลวงล่อ การสอบของพวกเราบังคับให้พวกเราเขียนคำตอบที่ผู้สอบอยากได้แทนที่จะเขียนคำตอบที่ประดิษฐ์หรือแนะนำทางออกที่ประดิษฐ์ต่อปัญหา แม้กระทั้งในสิ่งแวดล้อมทางธุรกิจของหน่วยงานก็ไม่มีจังหวะกำเนิดความผิดพลาดอีกต่อไป
แม้กระนั้นมันเป็นเพียงแต่ความไม่ประสบผลสำเร็จที่พวกเราทำความเข้าใจ ความผิดพลาดไม่สมควรสำคัญส่วนตัวเรามันเป็นเพียงแต่การเผชิญหน้ากับพวกเขาว่าพวกเราจะบรรลุความริเริ่มคิดสร้างสรรค์ ทุกคนควรจะได้รับอิสระสำหรับในการแสดงและก็ร่วมให้ข้อมูล ทราบว่าคุณจะล้มเหลวไม่สมควรเย้ยหยัน
อีกด้านหนึ่งเป็นจิตวิทยาที่เกี่ยวกับการมีวิสัยทัศน์ของอุโมงค์ซึ่งไม่อาจจะเห็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นได้เมื่อมีมุมมองที่แคบแล้วก็ยังหมดแรงดลใจ
กรรมวิธีการปฏิบัติเพื่อนำมาใช้เพื่อจัดการกับปัญหาความท้าสำหรับในการปฏิบัติงาน
ขั้นตอนการที่เอ๋ยถึงในที่นี้ยินดีที่จะพาคุณออกมาจากจุดสำหรับชมวิวที่ได้รับการยินยอมรับอย่างยอดเยี่ยมเพื่อบังคับให้ท่านทำบางสิ่งที่คุณไม่สามารถที่จะทำเป็น นี้จะหนักใจในตอนเริ่ม แม้กระนั้นมันช้านำคุณไปสู่ทางของการผลิตความสร้างสรรค์
เมื่อคุณกระทำตามกรรมวิธีพวกนี้เป็นธรรมชาติที่คุณมาพร้อมกับข้อแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เป็นจังหวะที่จะมองดูไปที่ความท้าสำหรับเพื่อการปฏิบัติงานของคุณจากมุมมองใหม่ๆและก็จากเค้าโครงความคิดที่ไม่เหมือนกัน เก็บประกายของคุณไว้ด้วย
แนวทางปฏิบัติ 1: ถามว่า “อะไรเป็นสิ่งที่ท้าการทำงาน“?
ปัญหานี้จะพูดถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ดำเนินงานตอนนี้ของคุณ การผลิตไอเดียครีเอทีฟมักเป็นกรรมวิธีสองขั้นตอนซึ่งเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาเป็นรายตัวรวมทั้งการได้รับการช่วยเหลือจากกรุ๊ป ในฐานะปัจเจกชนคุณเกิดความคิดที่กระด้างขึ้นมาแล้วคุณจะปรับปรุงแล้วก็ปรับแก้ไอเดียประดิษฐ์พวกนั้นให้ดีขึ้นกับกรุ๊ป
ทดลองดูกรรมวิธีการปฏิบัติบางสิ่งสำหรับการพูดถึง “ความท้าสำหรับในการดำเนินการเป็นยังไง” นี้มีเป้าหมายเพื่อมาพร้อมกับชุดที่สมควรของสิ่งที่จำเป็น ตอนต้นพวกเราอาจจะไม่ทราบว่าพวกเราอยากได้อะไร ปริศนาบางทีอาจไม่ชัดแจ้งในตอนเริ่ม แต่ว่าภายหลังชุดปริศนาหรือปัญหา “ขั้นตอนการ” อะไรบางอย่างเริ่มปรากฏขึ้น
1. ทางใหม่ๆ
ตรงนี้ใช้แนวทางนี้เพื่อค้นหาความท้าสำหรับในการดำเนินงานใช่หรือปัญหาที่กล่าวมาในใจความปัญหา พวกเราควรต้องเสนอคำถามว่า “เพราะอะไร” เมื่อมีใครกันแน่ใช้ปัญหา “กระบวนการทำ” พวกเรายังคงถามคำถามว่า “เพราะเหตุใด” หลายคราว การปฏิบัติงานนี้จะดำเนินไปเรื่อยกระทั่งพวกเราจะมาถึงเหตุการณ์ที่แต่ละปัญหา “เพราะเหตุใด“แปลงเป็นปริศนา “กรรมวิธี” ด้วยตัวเอง
2. ทริกเกอร์เหตุ
พวกเราสร้างชุดของทริกเกอร์แบบสุ่มในต้นแบบแนวความคิดที่เชื่อมโยงสินค้าหรือบริการ แล้วต่อจากนั้นพวกเราจะใช้แนวความคิดนี้เพื่อสร้างชุดแนวความคิดประดิษฐ์ใหม่ๆพวกเราชอบเริ่มด้วยความท้าสำหรับในการดำเนินการในตอนนี้ที่พวกเรากำลังทำงานอยู่แล้วก็แล้วหลังจากนั้นจะเรียกใช้งานของสถานะการณ์ที่เกิดขึ้นในลักษณะของแนวความคิดที่เกี่ยวโยงหรือสินค้าซึ่งเชื่อมต่อกับปัญหาเดิมในระดับที่สูงขึ้นหรือในระดับที่ต่ำกว่า แล้วพวกเราจะหยุดเมื่อใดก็ตามที่เรื่องราวทำให้พวกเรานึกถึงแนวความคิดประดิษฐ์ใหม่ๆ
3. ไม่มีการปฏิบัติการอะไรก็แล้วแต่
จะกำเนิดอะไรขึ้นถ้าหากคุณไม่ทำอะไร? พึ่งยังคง อาจมีสองคำตอบสำหรับประเด็นนี้ หนึ่งพวกเราจะมีความเด่นชัดรวมทั้งความนึกคิดที่ดียิ่งขึ้นเกี่ยวกับคุณประโยชน์ที่พวกเราจะได้รับจากการที่มิได้แสดง ผลตอบแทนที่เกิดขึ้นจะเป็นตัวบ่งชี้ถึงความสร้างสรรค์ของพวกเรา ประการลำดับที่สองพวกเราบางทีอาจรู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะว่ามิได้ทำงาน
4. สามกราฟ
ห้อยสามกราฟหรือบอร์ดไวท์กระดาน ในกราฟแรกเอ๋ยถึงเหตุการณ์ตอนนี้ในเวลาสั้นๆในกราฟลำดับที่สองกล่าวถึงปัญหาต่อการประสบผลสำเร็จและก็ในกราฟในที่สุดเอ่ยถึงตำแหน่งที่คุณอยากได้ พวกเราจะเริ่มมองเห็นเมื่อพวกเราเขียนว่าปัญหาจำนวนมากสามารถกลายเป็น “ทางแก้ปัญหา” ด้วยตัวเองได้
5. การอ่านบทความรวมทั้งเรื่องราว
ในช่วงเวลานี้พวกเราควรจะอ่านบทความและก็เรื่องราวที่พวกเรายังไม่เคยอ่านมาก่อน พวกเราควรต้องทราบดีว่าพวกเรากำลังปฏิบัติตามแนวทางลักษณะนี้ ความคิดริเริ่มยืนขึ้นเมื่อพวกเรากลับมา พวกเราปรารถนาให้คำแถลงปัญหาเกิดขึ้นในจิตไร้สำนึกของพวกเรา เมื่อพวกเรากลับมาดูปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้พวกเราจะศึกษาและทำการค้นพบว่ามันไม่เหมือนกันกับเดิมอย่างสิ้นเชิง น่าฉงนใจที่พวกเราไม่เคยคิดถึงประเด็นนี้มาก่อน
6. เดินเที่ยว
เดินเที่ยวในสวนสาธารณะรวมทั้งกลับไปทวนความท้า คุณจะมองเห็นบางอย่างที่ต่างกันอยู่แล้ว
7. ในรองเท้าของคนอื่นๆ
เมื่อใดก็ตามที่คุณอยู่ในหน่วยงานของคุณใช้เวลาสังเกตดูลำดับขั้นของหน่วยงานของคุณ คนทำงานในหน้าที่รวมทั้งระดับต่างๆคุณสามารถเริ่มแลเห็นปัญหาจากมุมมองของผู้หลักผู้ใหญ่ได้ ดังเช่น “CEO ของ บริษัท จะมองดูสิ่งที่ท้าได้ยังไง” แล้วหลังจากนั้นไปทำในตำแหน่งผู้บริหารระดับกึ่งกลางของ บริษัท รวมทั้งปัญหาที่บุคลากรจะได้รับในระดับที่ถือว่าต่ำสุด ดูตัวเองในรองเท้าของพวกเขาและก็มองปัญหาและก็มองว่ามันจะทำให้เกิดผลกระทบต่อพวกเขาแล้วก็โลกของพวกเขา
8. ตั้งเวลา
โดยปกติเมื่อระบุเส้นตายพวกเราจะไตร่ตรองปัญหาที่ผิดแผกแตกต่างออกไป พวกเราจะเจาะจงปัญหาแล้วก็สิ่งที่ต้องการในลักษณะที่ต่างกันออกไป เป็นเรื่องดีที่จะมองสิ่งนี้ภายใต้ตอนที่แตกต่างกันในวันอาทิตย์รวมทั้งเดือน
9. พิเคราะห์เหตุการณ์สมมุติว่า “หากอยาก”
พิเคราะห์เหตุการณ์สมมุติต่างๆที่จะทำให้ข้อสมมติที่แตกต่างเกี่ยวกับปัญหา ถามคำถามว่า “จะทำยังไงหาก” เพื่อสร้างใจความ “ขั้นตอนการ” แตกต่างกัน อาทิเช่น “กำเนิดอะไรขึ้นถ้าการรบขึ้น” แล้วก็คุณจะมองเห็นปัญหานี้ได้เช่นไร?
10. ไปไกลกว่าธรรมดามองหาเหตุการณ์
ที่คุณให้เกินธรรมดา ประเภทของการเป็นพิเศษ แทนที่จะปรับแต่งตามเดิม 10-20% ให้เปลี่ยนแปลงสินค้าหรือบริการของคุณโดยประมาณ 70-80% แล้วมองว่าคุณจะใช้คำกล่าวแบบใหม่หรือมองปัญหาในมุมมองที่ไม่เหมือนกันกับเดิมอย่างสิ้นเชิง
11. แหล่งข้อมูลขนาดใหญ่ที่มีไว้เพื่อเป็นของขวัญ
จินตนาการถึงสิ่งที่คุณจะทำยังไงถ้าเกิดคุณมีแหล่งข้อมูลขนาดใหญ่ที่จะช่วยทำให้คุณเป็นของขวัญสำหรับเพื่อการแก้ไขปัญหา คุณจะมองปัญหาได้เช่นไร? คุณจะสั่งบุคลากรให้ปฏิบัติงานของคุณได้ยังไง? งานอะไรที่พวกเขาจะทำ?คุณสามารถศึกษาอะไรจากสิ่งนี้ได้บ้าง? ต่อแต่นี้ไปเป็นเหตุการณ์อะไรบางอย่างที่จำเป็นต้องตรึกตรองเพื่อมองปัญหาในด้านมุมใหม่
12. ตะคอกด้อยของสินค้าหรือบริการที่เยี่ยมที่สุดของคุณ
ค้นหาข้อเสียและก็ข้อเสียของสินค้าหรือบริการที่เหมาะสมที่สุดของคุณในพื้นที่ตลาดแล้วก็ช่องที่พวกเขาเป็นจริงท้อแท้ ด้วยแนวทางแบบนี้คุณจะพบว่ามีคุณประโยชน์เพิ่มมากขึ้นสำหรับการเปลี่ยนแปลง คุณจะมองเห็นปัญหาในด้านมุมใหม่
แนวทางปฏิบัติ 2: ถามว่า “ทางออกเป็นอย่างไร“?
ปริศนานี้เอ่ยถึงปัญหา “คำตอบสำหรับปัญหาที่กำหนดเอาไว้ในพื้นที่ปฏิบัติงานปัจจุบันนี้ของคุณเป็นยังไง” ทดลองดูกระบวนการปฏิบัติบางสิ่งบางอย่างสำหรับในการเจาะจง “ทางออกเป็นยังไง” นี้มีเป้าหมายเพื่อทำลายลงวิสัยทัศน์อุโมงค์
มุมมองของพวกเราขยายกว้างขึ้นรวมทั้งพวกเราเริ่มมองดูประเด็นใหม่ๆและก็มุมมองที่พวกเรามิได้เอ๋ยถึงก่อนจะตอบปัญหาและก็ในระหว่างขั้นตอนการสร้างความคิดริเริ่มสร้างสรรค์บางสิ่ง นิดหน่อยของขั้นตอนการพวกนี้ข้างล่างสร้างแรงดลใจให้พวกเราจัดการในต้นแบบที่ไม่เคยมองเห็นมาก่อนแล้วก็พวกเราจะไม่เคยทราบว่ามีความน่าจะเป็นไปได้ที่จะปฏิบัติงานด้วยแนวทางแบบนี้
1. บิดบริการหรือคุณสมบัติสินค้าที่มีอยู่
คุณสมบัติโดยมากของสินค้าหรือบริการสามารถวัดได้ มันเริ่มด้วยการบิดคุณลักษณะที่สำคัญของคุณรวมทั้งมองสิ่งที่จะได้ผล พวกเราสามารถเลือกแอตทริบิวต์หนึ่งเป็นต้นว่าขนาดหรือน้ำหนักรวมทั้งบิดนิดหน่อยเพิ่มหรือลดหรือมองว่าจะได้ผลลัพธ์ของการบิดหรือความเคลื่อนไหวใดๆก็ตามมันมีผลกระทบต่อลูกค้ายังไง? สิ่งที่มีประโยชน์ที่เกิดขึ้นมาจากการบิดอย่างเช่นในลักษณะ? ความสามารถรวมทั้งประสิทธิผลใดที่พวกเราสามารถเอามาเปลี่ยนแปลงหรือบิดได้
สมมุติว่า บริษัท ของคุณกำลังทำที่นั่งสายการบิน ใช้แอตทริบิวต์ที่สำคัญอย่างหนึ่งแล้วก็ใช้งานได้จวบจนกระทั่งจะหมด เช่นหากพวกเรากระทำเปลี่ยน (เพิ่ม) ใน “ขนาด” ของที่นั่งให้อยู่ในระดับที่ไม่ได้ส่วน (อีกทั้งใหญ่เหลือเกินยกตัวอย่างเช่นเตียงหรือถูกใจที่นั่งเด็ก) ในเหตุการณ์กลุ่มนี้จะมีผลต่อความชอบใจของลูกค้ายังไง ? พวกเราจำเป็นจะต้องอะลุ้มอล่วยกับปริมาณที่นั่งบนเรือบินไหม? คำตอบสำหรับปริศนาดังที่กล่าวถึงมาแล้วให้คำปรึกษาเกี่ยวกับแนวทางที่พวกเราจะต้องใช้สำหรับเพื่อการตกลงใจของพวกเรา
2. ปรับลดหรือปรับลดจินตนาการ
ให้พวกเราบอกว่าถ้าเกิดปริศนาของพวกเราเป็น “การเพิ่มการรับทราบถึงยี่ห้อสินค้าของแบรนด์” เช่นไร แล้วคุณจะตอบปัญหาเช่นไรถ้าหากคุณเปลี่ยนวลีถามทั้งหมดทั้งปวงหรือวางเอาไว้ในทางตรงกันผ่านอย่างเช่น “แนวทางลดระดับสินค้า” คำตอบในการผกผันดังกล่าวมาแล้วข้างต้นจะก่อให้เกิดไอเดียที่ประดิษฐ์เพื่อเพิ่มการรับทราบถึงแบรนด์ของสินค้าในกรณีนี้อย่างแท้จริง
การทำงานกับสัญชาตญาณของพวกเราเพื่อผูกมิตร
3. ฝันวันปฏิบัติ
เพียงบรรเทา! นั่งนอนแล้วกล่าวว่า “น่าจะไม่สวยมากมายหรอกถ้าหากฉัน … ” ลองนึกถึงตนเองว่าจะมีระดับความสามารถไม่ จำกัด แล้วคุณจะทำเช่นไรในเหตุการณ์นี้? บางคราวคุณควรต้องย้ายออกจากจิตใจการวิเคราะห์ของคุณรวมทั้งมองเห็นสิ่งที่สังหรณ์ใจเยอะขึ้นเรื่อยๆ เลื่อนออกไปนิดหน่อยจากสมองทางซ้ายไปยังสมองทางด้านขวาของศิลป์ ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ความสร้างสรรค์สำหรับเพื่อการตอบรับและก็การจัดการกับปัญหาของคุณออกมาได้ง่ายเมื่อคุณรับทราบและก็รู้เรื่องผ่านสัญชาตญาณของคุณ
4. ในรองเท้าของผู้อื่น (Dead or Alive)
การมีความคิดเห็นของคนอื่นสำหรับการหาโซลูชั่นที่ประดิษฐ์เป็นอีกแนวทางหนึ่ง ตรงนี้พวกเราสามารถเลือกบุคคลหนึ่ง